ประวัติทาเตยามะและเส้นทางแอลป์

ความเชื่อทางศาสนาของทาเตยามะ

เชื่อกันว่าทาเตยามะเป็นภูเขาที่มีเทพเจ้าสถิตย์อยู่ ภูเขาไฟบริเวณเชิงเขามีทัศนียภาพธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร จิตนาการกันว่าเป็นพื้นที่คล้ายกับ “นรก”ตามความเชื่อของชาวพุทธ ชื่อสถานที่ในบริเวณพื้นที่นี้มีชื่อเกี่ยวกับ “การอยู่ในนรก”หลายแห่งเช่น คากิโนะเด็น (ทุ่งผีเปรต), จิโกกุดานิ(หุบเขานรก) ชิโนะอิเคะ (บ่อน้ำสีเลือด) เป็นต้น

ทัศนียภาพ 3 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์มีภูเขาทาเตยามะ,ภูเขาไฟฟูจิ,ภูเขาชิรายามะนั้น เป็นที่รู้จักดีตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-19 ว่าเป็นเส้นทางมาเยือนของผู้แสวงบุญจำนวนมาก เชื่อว่าการได้ชมโลกแห่งนรกที่มีน้ำร้อนพุ่งขึ้นจากหุบเขาจิโกกุดะนิแล้วก็ปรารถนาจะไปให้ถึงทาเตยามะแดนสุขาวดีด้วย

การปีนเขาสมัยใหม่เริ่มขึ้นแล้ว

ในศตวรรษที่ 19 มีความศรัทธาเรื่องเทพเจ้ากับพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับทาเตยามะ แต่ทัศนียภาพกว้างใหญ่น่ามหัศจรรย์ใจตรงหน้าได้ดึงดูดใจนักเดินเขาชาวอังกฤษให้เดินทางเข้ามาเรื่อย ๆ จนในที่สุดนักปีนเขา ชาวญี่ปุ่นและผู้หญิงจึงได้เริ่มกิจกรรมขึ้นภูเขาต่อ ๆ กันมา

การสร้างเขื่อนคุโรเบะ

ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่2 ญี่ปุ่นได้มีการฟื้นฟูเศรษฐกิจรวดเร็วมากทำให้เกิดการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า จึงได้มีการสร้างแหล่งผลิตพลังงานกระแสไฟฟ้าพลังน้ำชดเชย ใช้เวลาสร้างรวม 7 ปี ค่าใช้จ่าย 51.3 ล้านล้านเยนและจากคนงานทั้งหมด 10ล้านคน มีผู้ที่เสียชีวิตจากการสร้างเขื่อนถึง 171 คน สิ่งที่ยากลำบากที่สุดคือการขุดอุโมงค์เพื่อก่อสร้างรถบัสรางไฟฟ้าอุโมงค์คันเด็น (Kanden Tunnel Trolley bus)ที่ใช้วิ่งอยู่ในปัจจุบัน เพราะเป็นพื้นที่ที่มีน้ำใต้ดินและทรายจำนวนมหาศาลผุดขึ้นมาวินาทีละ 660 ลิตร การขุดเจาะลงไปเพียง 80 เมตรต้องใช้เวลาถึง 7 เดือน การสร้างเขื่อนคุโรเบะถูกนำไปสร้างเป็นละครเล่าเหตุการณ์จากการสร้างเขื่อนคล้ายเรื่องฟีเวอร์ดั๊มของอเมริกา ชื่อเรื่อง “คุโรเบะโนะไทโย”(พระอาทิตย์ที่คุโรเบะ) ซึ่งมีเหล่านักแสดงที่มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมากเข้าร่วมแสดงด้วย